คำถามที่พบบ่อย

 ริการ AIS Fibre คืออะไร?
  บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติก 100% คุณภาพสัญญาณแรง ไม่มีสะดุด มีเสถียรภาพสูง ไร้สัญญาณรบกวน พร้อมตอบสนองการใช้งานไม่จำกัด

        • รองรับการใช้งานมัลติมีเดียอย่างเต็มรูปแบบ เช่น ดูทีวีผ่านเน็ต เล่นเกมออนไลน์ ใช้งานกล้องวงจรปิด
        • เชื่อมต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตจาก AIS ได้ทุกที่ทุกเวลา
        • สนุกกับความบันเทิงระดับพรีเมี่ยมครบในกล่องเดียวกับ AIS PLAYBOX ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการทีวี และ คาราโอเกะ พร้อมสัมผัสสุด    ยอดความคมชัด ให้คุณสนุกจนไม่อยากพลาดจากหน้าจอ
        • ติดตั้งได้รวดเร็ว พร้อมบริการหลังการขายจากทีมงานคุณภาพ


 

 AIS Fibre รองรับบริการเสริมอะไรได้บ้าง?
 • สามารถรองรับการใช้งานมัลติมีเดียได้อย่างเต็มรูปแบบ อาทิ โทรศัพท์บ้าน (Fixed line), ดูทีวีผ่านเน็ต (IPTV) ฯลฯ
        • สามารถโหลดบิตได้ แต่ความเร็วจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้งานในขณะเวลานั้นๆ (Fair usage policy)
        • สามารถทำ port forwarding เพื่อใช้กับกล้องวงจรปิด (IP Camera) ได้ ไม่ว่าคุณจะใช้แพ็กเกจใดๆ ก็ตาม


 

  หากลูกค้าต้องการเปลี่ยนแพ็กเกจความเร็วของบริการ AIS Fibre ได้หรือไม่?
 • กรณีลูกค้าต้องการเปลี่ยนแพ็กเกจความเร็วสูงขึ้น (Speed) สามารถเปลี่ยนแพ็กเกจได้ด้วยตัวเองที่เว็บไซด์ AIS Fibre (www.ais.co.th/fibre) เลือกเมนู “เปลี่ยนโปรโมชั่น” หรือติดต่อ AIS Fibre Contact Center 1175
        • ไม่สามารถเปลี่ยนความเร็วแพ็กเกจให้น้อยลง (Speed) จนกว่าจะครบอายุสัญญา 12 เดือน


 

 ลูกค้าขอระงับการใช้บริการชั่วคราว หรือขอยกเลิกบริการก่อน 1 ปีได้หรือไม่?
 กรณีระงับการใช้บริการชั่วคราว
        • สามารถทำได้เฉพาะลูกค้า AIS Fibre รายเดือน เท่านั้น
        • ต้องเป็นลูกค้า AIS Fibre อย่างน้อย 90 วัน
        • ต้องไม่มียอดค่าใช้บริการค้างชำระ ณ วันที่ให้ระงับบริการชั่วคราว
        • สามารถขอระงับบริการชั่วคราว ได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี นับแบบ Calendar year
        • ต้องแจ้งวันที่ต้องการให้เริ่มระงับสัญญาณชั่วคราว และวันที่ต้องการกลับมาใช้งานทุกครั้ง
        • ช่วงระยะเวลาที่สามารถขอระงับบริการชั่วคราว ต้องไม่น้อยกว่า 30 วัน และไม่เกิน 60 วัน ต่อครั้ง
        • การขอแจ้งระงับบริการชั่วคราวล่วงหน้า ต้องไม่เกิน 30 วัน
        • เมื่อครบกำหนดขอระงับสัญญาณชั่วคราว ระบบจะทำการเปิดสัญญาณใหม่อัตโนมัติ และเริ่มคิดค่าบริการรายเดือนตาม Package เดิม โดยคิด Prorate ตามวันที่เริ่มกลับมาใช้งานจริง
        • ลูกค้าสามารถขอระงับบริการชั่วคราว หรือ เปิดใช้บริการ ผ่านทาง AIS Shop และ AIS Fibre Contact Center 1175 เท่านั้น
        • ลูกค้าที่ใช้งานโปรโมชั่นพิเศษ เช่น Greeting Package, Discount 50% 3 เดือน, Power 3 จะยังคงนับระยะเวลาโปรโมชั่นพิเศษต่อไป ไม่หยุดตามการระงับบริการชั่วคราว
        • ระหว่างระยะเวลาที่แจ้งระงับสัญญาณชั่วคราว จะไม่เรียกเก็บค่าบริการรายเดือนตามโปรโมชั่น
        • การระงับบริการ ไม่รวมถึงแพ็กเกจเสริม (On Top Package) อื่นๆ เช่น Hooq, Doonee ฯลฯ
        • ไม่สามารถระงับบริการ Fixed Line ได้ ค่ารักษาเลขหมายของ Fixed Line จะคงเรียกเก็บตามปกติ


 

 มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการระงับบริการชั่วคราวหรือไม่?
 • ไม่เก็บค่าบริการรายเดือนและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ภายใน 30 วันแรก
        • เกิน 30 วัน (วันที่ 31 – 60) มีค่ารักษาช่องสัญญาณ /Port Maintenance fee 150 บาท คิดตามระยะเวลาที่ขอระงับบริการจริง
        • รอบบิลที่ลูกค้าทำการเปิดใช้บริการ (Reconnect Customer Request) จะ Prorate ตามการใช้งานจริง



 

 AIS Fibre เรียกเก็บค่าใช้บริการอย่างไร?
 • ค่าบริการจะเรียกเก็บแบบล่วงหน้า ณ วันเริ่มต้นรอบบิล (Prepay) 1 เดือน ก่อนการใช้บริการ ซึ่งเป็นรูปแบบของการเรียกเก็บค่าบริการทั่วไปของอินเทอร์เน็ตบ้าน
กรณีลูกค้าทำการสมัครและเปิดใช้บริการระหว่างรอบบิล จะคิดค่าบริการเฉลี่ยรายวัน (prorate) ตั้งแต่วันที่ติดตั้งเสร็จ-วันสิ้นรอบบิล โดยลูกค้าจะได้รับใบแจ้งค่าใช้บริการใบแรก หลังจากติดตั้งประมาณ 10 วัน
        • วันตัดรอบบิลใบแจ้งค่าใช้บริการ จะขึ้นอยู่กับวันที่ติดตั้ง


ช่วงวันที่ติดตั้ง วันตัดรอบบิลใบแจ้ง วันกำหนดชำระ
1-3 3 29
4-7 7 2
8-11 11 6
12-15 15 10
16-19 19 14
20-23 23 18
24-27 27 22
28-31 วันสิ้นเดือน 26


         • ใบแจ้งค่าใช้บริการ ใบแรกจะแสดงค่าบริการ 2 รายการ

ค่าบริการคิดเฉลี่ยตามวันที่ใช้งาน ตั้งแต่วันติดตั้ง – วันตัดรอบบิล (แสดงเฉพาะในบิลใบแรกเท่านั้น)
ค่าบริการเรียกเก็บล่วงหน้า 1 เดือน เต็มจำนวน (แสดงตามปกติในทุก ๆ รอบบิล)

         ตัวอย่าง การแสดงหน้าใบแจ้งฯ ใบแรก กรณีเลือกแพ็กเกจ 750 บาท
ติดตั้งวันที่ 26/01/59 จะได้วันตัดรอบบิลใบแจ้งฯ ทุกวันที่ 27

 


 

 สามารถชำระค่าบริการผ่านช่องทางไหนได้บ้าง?
 1. ชำระผ่านทางหน้าเว็บไซด์ AIS Fibre (www.ais.co.th/fibre)
        - เลือกเมนู “ชำระค่าบริการ”
        - กรอกหมายเลขอินเทอร์เน็ต (88xxxxxxxxxx) และหมายเลขบัตรที่ใช้ในการสมัคร เพื่อ log-in เข้าสู่ระบบ
        - สามารถเลือกวิธีการชำระค่าบริการผ่าน mPAY หรือชำระออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต VISA/Master Card จากนั้น ดำเนินการตามขั้นตอน
        2. ชำระผ่านจ่ายบิลแอพพลิเคชั่น mPAY
        - Log in เข้าสู่หน้าหลัก เลือกไอคอน AIS Services
        - เลือก AIS Fibre
        - เลือกวิธีชำระ ใส่รหัส PIN และกดยืนยันการชำระ
        3. AIS Shop และร้านเทเลวิชทั่วประเทศ
        4. เคาน์เตอร์บริการ Tesco Lotus, Family Mart
        5. เคาน์เตอร์ธนาคาร, ตู้เอทีเอ็ม, ธนาคารอินเทอร์เน็ต, ธนาคารบนมือถือ
        6. หักค่าบริการอัตโนมัติผ่านบัญชีธนาคาร หรือหักค่าบริการอัตโนมัติผ่านบัตรเครดิต VISA, Master Card, AMEX, Diner Club ที่ออกภายในประเทศไทย โดยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บิลใบแจ้งค่าบริการ



 

 อินเทอร์เน็ตที่ได้มาใช้ได้ไม่ทัวบริเวณบ้าน จะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง?
 • เนื่องจากสัญญาณ Wireless มีลักษณะเป็นคลื่นความถี่ ซึ่งอาจถูกลดทอนความเข้มของสัญญาณ ได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน
เช่น สิ่งกีดขวาง ระยะทาง ดังนั้นแนะนำให้ท่านวางอุปกรณ์ไว้ในจุดที่สามารถกระจายสัญญาณได้ดี ไม่อับสัญญาณ จัดวาง Router ให้หันไปยังทิศทางที่ต้องการใช้งาน จะทำให้สามารถส่งสัญญาณได้ดีขึ้น
       • หากวิธีข้างต้นยังไม่ดีขึ้น ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของบ้านที่สัญญาณรบกวนมาก หรือ ขนาดของบ้านไม่เหมาะสมต่ออุปกรณ์เพียงตัวเดียว แนะนำให้ท่าน ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่อขยายสัญญาณให้กว้างยิ่งขึ้น เช่น Repeater , AP เป็นต้น



 

 วิธีแก้ไขปัญหาสัญญาณ Wireless สัญญาณอ่อน/หลุดบ่อย/ไม่เสถียร
 • แนะนำให้ผู้ใช้งานทำการตรวจสอบค่าสัญญาณด้วยโปรแกรม หรือ แอพพลิเคชันดังด้านล่างนี้ หากใช้งาน เครื่องคอมพิวเตอร์ แนะนำให้ติดตั้งโปรแกรม inssider
หรือหากใช้งาน อุปกรณ์มือถือแนะนำแอพพลิเคชัน WiFi Analyzer
       • โดยการใช้งานบนโปรแกรม inssider และ แอพพลิเคชัน WiFi Analyzer จะใช้งานในทำนองเดียวกัน คือ สามารถบอกสัญญาณโดยรอบๆว่ามีสัญญาณใดเกาะอยู่ที่ Wi-Fi Channel ใดบ้าง
เมื่อผู้ใช้งานตรวจสอบบนกราฟที่แสดงผล หากพบว่า Channel ใด มีการใช้งานน้อย ให้ทำการตั้งค่า สัญญาณ Wi-Fi บน Router ไปที่ Channel นั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการรบกวนกัน ของสัญญาณ ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้งานสัญญาณ Wireless ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น